ระลึกถึง ชายผู้ไม่เคยยอมแพ้ชะตาชีวิต Stephen Hawking
เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ชายนามว่า สตีเฟ่น ฮอว์คิง นักฟิสิกส์ นักจักรวาลวิทยา บุคคลสำคัญคนหนึ่งของโลกได้จากไป เพื่อรำลึกถึงและจดจำ สตีเฟ่น ฮอว์คิง ชายผู้ไม่เคยยอมแพ้ชะตาชีวิต และ ทฤษฎีวิทยาศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงโลก ที่จะทำให้คุณรู้ว่าทำไม การจากไปของเขาจึงถือว่าเป็นความสูญเสียของโลกครั้งยิ่งใหญ่
ชายผู้ไม่เคยยอมแพ้ต่อชะตาชีวิต
สตีเฟ่น ฮอว์คิง ถูกวินิจฉัยว่าเขาป่วยเป็นโรค ALS (Amyotrophic Lateral Sclerosis) โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงในระหว่างที่เขากำลังศึกษาอยู่ที่ Oxford อาการของเขาอยู่เพียงขั้นต้นแต่ว่า อาการของโรคนี้ก็คือ กล้ามเนื้อแต่ละส่วนของเขาจะค่อยๆอ่อนแรงลงไป ตั้งแต่ กล้ามเนื้อขา แขน จนกระทั่งเริ่มมีอาการพูดไม่ชัด เนื่องจากภาวะเส้นประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมกล้ามเนื้อไม่สามารถทำงานได้และเขาถูกวินิจฉัยว่า เขาจะมีชีวิตอยู่อีกเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น
หลังจากทราบว่าเขาจะมีชีวิตอยู่เพียงอีกไม่นาน เขาก็เริ่มป่วยเป็นสภาวะซึมเศร้า แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ยอมแพ้ต่อชะตาชีวิต และเลือกที่จะมีความหวังเพื่อต่อสู้กับมันต่อไปจนกระทั่งเขาได้มีโอกาสพบรักแท้กับภรรยาของเขา และปรากฏว่าหลังจากนั้น เขาก็ยังไม่ได้เสียชีวิตภายในระยะเวลา 2 ปีและมีชีวิตอยู่มาได้นานจนถึงวันที่เขาได้ตั้งทฤษฎีที่เปลี่ยนแปลงวงการวิทยาศาสตร์และงานเขียนที่สำคัญของโลกอย่างหนังสือ A Brief History of Time และนี่คือประโยคที่เตือนใจต่อพวกเราทุกคนให้อย่ายอมแพ้ต่อโชคชะตาชีิวิต แม้ชีวิตมันจะยากแต่ก็อย่ายอมแพ้
“ However difficult life may seem there is always something you can do and succeed at.
It matters that you don’t just give up.”
“ไม่ว่าชีวิตจะยากขนาดไหนมันก็มีสิ่งที่คุณสามารถทำและประสบความสำเร็จจากมันได้
สิ่งสำคัญคือคุณต้องไม่ยอมแพ้.”
งานวิจัย หลุมดำ ที่ก้องโลก
งานวิจัยที่สร้างชื่อเสียงให้ สตีเฟ่น ฮอว์คิงดังไปก้องโลกก็คือ งานวิจัย หลุมดำ ที่เขาเผยแพร่มาในปี 1974 ที่เขาอธิบายถึงหลุมดำว่า หลุมดำไม่ใช่สุญญากาศแบบสมบูรณ์อย่างความเชื่อของนักวิทยาศาสตร์รุ่นๆก่อนเคยเชื่อไว้ แต่มันคือ สสารหนึ่งในรูปของรังสีสามารถฝ่าพ้นแรงโน้มถ่วงของหลุมดำออกมาได้ ต่อมาจึงได้มีการเรียกว่า รังสี Hawking
นอกจากการทำงานเป็นนักฟิสิกส์ นักจักรวาลวิทยาที่เผยแพร่แนวคิด ทฤษฎีต่างๆที่มีความสำคัญแล้วนั้น สตีเฟ่น ฮอว์คิงยังทำหน้าที่เป็น ศาสตราจารย์สอนในมหาวิทยาลัยดังเพื่อถ่ายทอดความรู้ของเขาในมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ อีกด้วย เขาเป็นศาสตรจารย์ที่ได้มอบความรู้ให้กับโลกไว้หลายเรื่องถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถสื่อสารได้แต่เขาก็มีโปรแกรมที่ช่วยเขาในการสื่อสาร ทำให้เขาสามารถถ่ายทอดความรู้อันล้ำค่าให้แก่โลกและความรู้เหล่านั้นจะถูกจดจำไว้ไปอีกยาวนาน
การท่องกาลเวลานั้นเป็นไปได้
ในหนังสือ “A Brief History of Time.” ของสตีเฟ่น ฮอว์คิงนั้นได้รวบรวม งานวิจัย งานตีพิมพ์ต่างๆของเขาไว้รวมกัน มีทั้งทฤษฎีที่เขาได้ตั้งไว้มากมายที่เปรียบเสมือนแนวทางการศึกษาสำหรับด้านฟิสิกส์และจักรวาลวิทยา โดยเฉพาะทฤษฎี Hawking ที่กล่าวว่า โลกของเราสามารถมองได้ถึง 11 มิติ และเขาก็ยังเชื่อว่า การท่องกาลเวลา นั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้และในอนาคตเขาก็เชื่ออีกว่า มนุษย์สามารถที่จะย้ายถิ่นฐานไปดาวดวงอื่นและรวมถึงการออกล่าดวงดาวได้ในอนาคต
ถึงแม้ สตีเฟ่น ฮอว์คิง จะจากไปแล้วนั้นแต่เขาก็ยังได้ทอดทิ้งสิ่งล้ำค่า ความรู้ ทฤษฎีและความหวังไว้ให้กับมวลมนุษย์ชาติเป็นอย่างมาก รวมถึงเรื่องราวของชายผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตาชีวิตนั้นก็เป็นเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนเป็นอย่างมากในการที่จะไม่ยอมแพ้ไม่ว่าชีวิตจะยากลำบากขนาดนั้นก็ตาม และการทิ้งท้ายถึงเรื่อง การท่องกาลเวลา นั้นไม่ใช่เรื่องแฟนตาซีเสียทีเดียวแต่มันยังมีความเป็นไปได้อีกด้วย รวมถึงการเดินทางไปดวงดาวดวงอื่นล้วนมีโอกาสเป็นไปได้ ถึงแม้ว่ามันจะยังไม่เกิดให้เห็นในวันนี้ก็ต้องรอติดตามอนาคตกันต่อไป แต่ถ้าหากอยากชมเรื่องราวการท่องกาลเวลาและการเดินทางไปดวงดาวต่างๆแล้วล่ะก็ สามารถมารับชมDoctor Who ไปพลางๆ ก่อนได
ดูซีรีส์ออนไลน์ Doctor Who ข้ามเวลามากู้โลก ปี 1